ลู่ตงปีน เทพแห่งการแสดงมายากล - ลู่ตงปีน เทพแห่งการแสดงมายากล นิยาย ลู่ตงปีน เทพแห่งการแสดงมายากล : Dek-D.com - Writer

    ลู่ตงปีน เทพแห่งการแสดงมายากล

    เป็นเรื่องเกี่ยวกับเทพเจ้าหนึ่งในแปดเซียน ที่คนจีนเคารพนับถือ

    ผู้เข้าชมรวม

    656

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    656

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    1
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  19 ส.ค. 49 / 18:10 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
       ลู่ตงปีน เทพแห่งการแสดงมายากล

       

                      ลู่ตงปีนเป็นเทพองค์หนึ่งในจำนวนโป๊ยเซียน หรือเทพทั้งแปด ซึ่งครั้งหนึ่งท่านได้กระทำผิดต่อหน้าเง็กเซียนฮองเฮาโดยการหยอกล้อ เทพธิดาโบตั๋นต่อหน้าพระพักตร์

       

                      การหยอกล้ออย่างใกล้ชิดนั้นทำให้เทพธิดาโบตั๋นบังเกิดความปรารถนาอยากจะได้ไปจุติเป็นสามัญชนคนธรรมดาในมนุษย์โลก

       

                      เง็กเซียนฮองเฮาจึงทรงกริ้วนัก ที่ลู่ตงปีนเป็นสาเหตุที่ให้เทพธิดาโบตั๋นบังเกดิความคิดเช่นนั้น เทพลู่ตงปีนจึงถูกลงโทษให้กักบริเวณอยู่ในหุบเขาจงหนานเป็นเวลานานถึงห้าร้อยปี ส่วนเทพธิดาโบตั๋นนั้นก็ถูกทำโทษด้วยเช่นกันน โดยต้องไปจุติในโลกมนุษย์

       

                      ครั้งเมื่อเทพลู่ตงปีนจำศีลภาวนาเป็นเวลาครบห้าร้อยปีจนพ้นโทษแล้ว ก็สามารถที่จะกลับขึ้นมาสู่สวรรค์ดังเดิมได้ แต่ทว่าลู่ตงปีนนั้นใคร่จะนำเทพธิดาโบตั๋นกลับคืนสู่สวรรค์ด้วย เพราะเห็นว่านางต้องรับโทษเพราะตนเป็นต้นเหตุ

       

                      ขณะที่ลู่ตงปีนออกเดินทางเสาะหาเทพธิดาโบตั๋น จนผ่านไปที่ริมฝั่งแม่น้ำของเมืองลั้วหยาง ก็พลันได้พบกับเด็กผู้หนึ่ง ซึ่งกำลังถูก

      พระกลุ่มใหญ่ ถือกระบองไล่ตีกันอย่างเอาเป็นเอาตาย

       

                      ลู่ตงปีนรีบเด็ดถั่งเหลืองจาข้างทางแล้วเสกเป่าคาถาโยนขึ้นไป บนท้องฟ้า ในพริบตาเดียวที่ถั่งเขียวตกลงมาสู่พื้นดิน ก็ปรากฏเป็นชายฉกรรจ์สิบคนยืนถือมีด ถือกระบองขวางกน้าพระกลุ่มใหญ่เหล่านั้นไว้ แล้วก็วิ่งไล่พระเหล่านั้นไปจนสิ้น

       

                      เด็กน้อยเล่าให้ลู่ตงปีนฟังว่า พระเหล่านั้นต้องการจะมาจับตนไปเป็นพระ เพราะพ่อแม่ของตนติดหนี้กับทางวัดเป็นจำนวนมาก และพ่อแม่ของตนก็เพิ่งเสียชีวิตเมื่อวานนี้เอง

       

                      แต่ทว่าเด็กน้อยสารภาพอย่างไร้เดียงสากับลู่ตงปีนว่า ตนยังไม่อยากที่จะบวชเป็นพระถึงได้วิ่งหนี เมื่อรพะจับตัวมาตีมาหยิกตนก็ด่าเข้าให้ พระจึงพากันวิ่งไล่ตีเช่นนั้นเอง

       

                      เด็กน้อยร้องไห้เดินตามลู่ตงปีนจนถึงริมฝังแม่น้ำ แต่ทว่าหาได้มีสะพานจะข้ามไปอีกฝั่งหนึ่ง

       

                      ลู่ตงปีนขอเศษเงินจากตัวหนูน้อยซึ่งมีเพียงห้าเหรียญ นำมากำไว้พร้อมกับเศษดินจากริมแม่น้ำอีกกำมือหนึ่ง พลางท่องคาถาว่า

       

                โอม ทองไม้น้ำไฟดิน

       

                ลู่ตงปีนท่องคาถาชั่งครู่ ก็โยนเงินเหรียญกับดินแม่น้ำขว้างไปยังกลางน้ำ ในบัดดลนั่งเอง ก็ปรากฏว่า มีเหรียญนับหมื่นนับแสนเหรียญโปรยจากท้องฟ้า ร่วงลงมาก่อตัวกันเรียงเป็นสะพานโค้งสวยงามเปล่งประกายแวววาว ทอดจากฝั่งหนึ่งข้ามไปยังอีกฝั่งหนึ่งให้เด็กน้อยและ ลู่ตงปีนเดินข้ามไปอย่างสบาย

       

                      เด็กน้อยจึงหยุดร้องไห้ และหัวเราะชอบใจได้ในเวลานั้นเอง

       

                      ครั้งเมื่อลู่ตงปีนสืบทราบว่า เทพธิดาโบตั๋นไปจุติเป้นลูกสาวเจ้าของร้ายขายยาในเมืองแห่งหนึ่ง ลู่ตงปีนจึงไปที่ร้ายขายยานั้น แล้วสั่งยาจำนวนสิบสองชนิดกับเถ้าแก่เจ้าของร้าน

       

                      ยาทั้งสิบสองชนิดมีดังนี้

       

                      1. สวรรค์ ราบรื่น

                      2. ปวงชน อยู่เย็นเป็นสุข

                      3. แก่แล้ว ผอมแห้ง

                      4. บิดามารดา สบายใจ

                      5. ครอบครัวอบอุ่น ผูกพัน

                      6. สามัคคี ปรองดอง

                      7. แข็งแกร่ง ดั่งเหล็ก

                      8. อ่อนนุ่ม ดั่งนุ่น

                      9. ขื่นปาน ยาขม

                      10. ขมดั่ง บอระเพ็ด

                      11. หวานปาน น้ำผึ้ง

                      12. น้ำผึ้งขม

       

                      ลู่ตงปีนสั่งยาแล้วก็บอกกับเถ้าแก่ว่า ถ้าท่านสามารถจัดยาทั้ง สิบสองชนิดได้ ท่านจะได้กลายเป็น โป๊ยเซียนขึ้นไปอยู่บนสรวงสวรรค์

       

                      เถ้าแก่เจ้าของร้านขายยาได้แต่ส่ายหน้าปฏิเสธว่าตนมาสามารถจะจัดยาพวกนี้ให้ได้หรอก ขอให้ไปซื้อยาร้านอื่นก็แล้วกัน

       

                      ลู่ตงปีนจึงทำทีเป็น เอะอะโวยวาย ไม่พอใจ ขณะนั้นเองลูกสาวคนสวยของเถ้าแก่ปรากฏกายออกมาจากหลังร้าน แล้วรับอาสาจะไข ปริศนาชื่อยาเหล่านั้นให้

       

                      แล้วเทพธิดาโบตั๋น ผู้มาจุติเป็นลูกสาวเจ้าของร้ายขายยา จึงได้แก้ปริศนาให้ลู่ตงปีนว่า

       

                      ข้อ1. สวรรค์ราบรื่น ก็คือ เง็กเซียน ผู้ถือศีล ถือสัตย์ สวรรค์จึงราบรื่น

                      ข้อ2. ปวงชนอยู่เย็นเป็นสุข ก็คือ ขุนนางผู้ซื่อสัตย์ สุจริต

                      ข้อ3. แก่แล้ว ผอมแห้ง ก็คือ ผู้ที่มีอายุยืนยาวนั่นเอง

                      ข้อ4. บิดามารดา สบายใจ ก็คือ ต้องมีลูกเต้ากตัญญู

                      ข้อ5. ครอบครัวอบอุ่น ผูกพัน ก็คือ ครอบครัวที่บรรดาพี่น้อง ยินยอมอ่อนข้อให้กัน ไม่ขัดแย้งกัน

                      ข้อ6. สามัคคี ปรองดอง ก็คือ เมื่อครอบครัวปรองดองกัน รักใคร่กันดี ก็ย่อมบังเกิดความสามัคคี กลมเกลียวกันนั่นเอง

                      ข้อ7. แข็งแกร่ง ดั่งเหล็ก ก็คือ คนเมาแล้วอาละวาด

                      ข้อ8. อ่อนนุ่ม ดั่งนุ่น ก็คือ คนที่ทำผิดกฎหมาย ย่อมอ่อนแอและ ระทดระท้อดั่งนุ่น

                      ข้อ9. ขื่นปาน ยาขม ก็คือ ลูกที่ขาดแม่

                      ข้อ10. ขมดั่ง บอระเพ็ด ก็คือ สะใภ้ที่เป็นดั่งทาส

                      ข้อ11. หวานปาน น้ำผึ้ง ก็คือ คู่ที่สามีภรรยาที่รักใคร่กัน

                      ข้อ12. น้ำผึ้งขม ก็คือ หากสามีภรรยาต้องแยกห่างจากัน

       

                      ลู่ตงปีนเห็นว่าเทพธิดาโบตั๋น แก้ปริศนาของตนเองได้ แล้วจึงล้วง หนังสือมายากลออกจากอกเสื้อ เพื่อหาปริศนามาทายอีก

       

                      แต่ในบัดนั่นเอง เถ้าแก่เจ้าของร้านก็กลับหัวเราะขึ้นแล้วกล่าวว่า ตนรู้ว่า เขาคือ ลู่ตงปีน ที่ถูกพระแม่เจ้าเง็กเซียนฮองเฮาลงโทษ

       

                      ลู่ตงปีนตกใจมาก เมื่อพบว่า เถ้าแก่ร้านขายยาผู้นั้นได้กลับกลายเป็น เทพฮั่นจงหลี่ เทพองค์หนึ่งในโป๊ยเซียน หรือ แปดเทพที่ เป็นสหายสนิทของตนนั่นเอง

       

                      ลู่ตงปีนตกใจกลัวว่า เทพฮั่นจงหลี่ จะไปฟ้องเง็กเซียนฮองเฮา ให้ตนถูกลงโทษอีก ที่แอบมาก่อกวนเทพธิดาโบตั๋น ในครั้งนี้จึงต้องจำใจ เหาะกลับขึ้นสวรรค์พร้อมกับ เทพฮั่นลงหลี่ในที่สุด

       

                      ในขณะนั้นเอง หนังสือที่ว่าด้วยเรื่องราวมายากลนับพันนับหมื่นข้อ ของเทพลู่ตงปีน ก็ร่วงหล่นพื้น เด็กน้อยผู้ติดตามลู่ตงปีนมานั้น ก็เก็บหนังสือไว้ แล้วพลิกออกชมดู จึงพบว่าในนั้นมีเคล็ดลับการแสดงมายากลอีกมากมาย อีกทั้งมีคาถาวิเศษต่างๆ เช่น การเสกถั่วให้เป็นชายฉกรรจ์ เสกเงินเหรียญให้เป็นสะพาน เสกผ้าแพรพรรณให้กลายเป็นดอกไม้ เสกดอกไม้ให้กลายเป็นนกเป็นกระต่าย เป็นต้น

       

                      นับจากวันนั้น เจ้าเด็กน้อยผู้นี้จึงได้ร่ำเรียนวิชามายากลจากในหนังสือของเทพลู่ตงปีน แล้วก็เที่ยวเร่แสดง มายากลเรื่อยไป เป็นอาชีพจนกระทั่งเติบใหญ่

       

                      ครั้งเมื่อถ่ายทอดวิชามายากลให้ลูกศิษย์ต่อไป ก็จะสอนให้ลูกศิษย์ลูกหา ยกย่องเทพลู่ตงปีนว่า เป็นเทพปรมาจารย์แห่งวิชาชีพนี้ด้วย

       

                      เทพลู่ตงปีน จึงได้รับการกราบไหว้และ ยกย่องนับถือในหมู่ นักแสดงมายากลตราบจนกระทั่งทุกวันนี้

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×